เหยียบคันเร่งเต็มสปีดมุ่งขยายทั่วโลกด้วย Teachme Biz!​ ​
“สร้างความสุขให้โลกด้วยอาหาร” เป็นปรัชญาองค์กรของ Teppen ผู้ให้บริการอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทย โดย ณ เดือนพฤษภาคม 2019 มีร้านอาหารทั้งหมด 7 ร้าน และวางแผนจะเปิดเพิ่มอีก 3 ร้านภายในปีเดียวกัน บริษัทหวังสร้างอนาคตของเอเชียและของโลกด้วยการสร้างความสุขทางใจให้ลูกค้าด้วยบริการจากใจ และสร้างความสุขทางกายให้ลูกค้าด้วยอาหารที่ดีต่อร่างกาย

Teachme Biz คันเร่งช่วยขยายกิจการให้เกิดขึ้นได้ด้วยความเร็วสูง

―――อะไรทำให้เริ่มใช้ Teachme Biz

ผมมาเปิดกิจการที่เมืองไทยได้ 6 ปีแล้ว สอนงานพนักงานก็ทำด้วยตัวเอง รวบรวมพนักงานแต่ละร้าน ออกไปสอนและเช็ค กว่าจะสอนครบทุกร้านใช้เวลานาน หาเวลามาพัฒนาเมนูใหม่ๆ ไม่ได้เลย

ยิ่งไปกว่านั้น ที่เป็นอุปสรรคใหญ่เลยคือเรื่องความคลาดเคลื่อนของภาษา ก่อนเริ่มใช้ Teachme Biz พยายามทำเป็นเอกสารทิ้งไว้บ้าง วันหนึ่งประชุมหลายต่อหลายครั้งบ้าง แต่ก็ต้องใช้เวลาเป็นอย่างมากในการสร้างความเชื่อใจซึ่งเป็นพื้นฐานของการสื่อสารที่ดี​ ​

―――อะไรทำให้ตัดสินใจใช้ Teachme Biz​ ​

ณ วินาทีที่ได้รู้จัก รู้เลยว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการขยายธุรกิจ Teppen ต่อจากนี้ ที่ผ่านมาสูตรอาหารกว่า 150 รายการใช้เขียนใส่กระดาษบ้าง ใช้ซอฟท์แวร์พวก Office เอารูปมาแปะแล้วทำขึ้นมาบ้าง แต่ถ้าเป็น Teachme Biz มันช่วยย่นเวลาให้สั้นลงได้มาก​ ​​ ​

เหนือสิ่งอื่นใด พอสามารถเอาขั้นตอนการทำงานมาให้เห็นได้ด้วยรูปภาพและวิดีโอ มองแว๊บเดียวใครก็เข้าใจ ที่เหลือเราก็พยายามคอยดู คอยชมให้กำลังใจไป จะช่วยสร้างความไว้ใจซึ่งกันและกันได้เร็ว พอให้ดู Teachme Biz ภาระงานในส่วนการสอนก็ไม่มีแล้ว เราเอาเวลาตรงนั้นมาเร่งขยายร้านได้ การรุกเข้าสู่ตลาดโลกก็ดูจะเข้าใกล้ความเป็นจริงมากขึ้น​ ​

รับมือตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการแข่งขันสูงได้แบบเรียลไทม์

―――เอามาใช้งานอย่างไรบ้าง?​ ​

ที่เราเอามาปรับเป็น “ระบบการมองเห็น” มีหลากหลายมากไม่ว่าจะเป็นสูตรอาหาร “เมนูแนะนำวันนี้” ปรัชญาองค์กร วิธีประชุมเช้า วิธีล้างมือ ตั้งแต่เข้างานจนเลิกงานทำอะไรบ้าง ฯลฯ ถ้าเป็นสมาชิกในครัว พอเข้างานมาก่อนอื่นต้องลับมีด ตรวจสอบวัตถุดิบที่เสียง่าย เช็คอุณหภูมิข้าว งานเหล่านี้เราใช้เครื่องมือของกูเกิ้ลดูแลจัดการอยู่ ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจก็เช็คกับ Teachme Biz ได้ทันที ซึ่งสะดวกมาก

เมื่อก่อนกว่าจะเอาสูตรใหม่ๆ ออกมาใช้จริงได้ใช้เวลาอยู่ 2 สัปดาห์ ตอนนี้หลังสูตรอาหารนิ่งแล้ว 2 วันถัดมาสูตรใหม่นั้นก็มาวางหน้าร้านได้แล้ว เราใช้ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งในการทำสูตรอาหารของบริษัทอยู่ เช่น ถ้าเป็นปลาดิบเราจะลองถ่ายภาพหลายๆ แบบ แบบมีและไม่มีเครื่องเคียงกับใบโอบะแล้วเอาไปลง Instagram หรือ Facebook เราจะรู้ผลตอบรับจากจำนวนการกด “ถูกใจ” และความคิดเห็น จากนั้นเลือกอันที่ได้รับความนิยมมากที่สุดมาทำสูตรอาหารใหม่ออกมาให้ลูกค้าได้ทันทีโดยใช้ Teachme Biz แล้วเอาความคิดเห็นจากลูกค้าและพนักงานมาปรับเข้าไปในสูตรเรื่อยๆ จนสมบูรณ์ การเปลี่ยนสูตรก็ง่ายใช้เวลาเพียง 1 นาที ความเร็วตรงนี้แหละที่เป็น “อาวุธ” ของพวกเรา

พอทำเป้าหมายให้เห็นเป็นภาพได้พนักงานก็กระตือรือร้นและประธานเองก็มีความคิดที่เปลี่ยนไป

―――ผลจากการใช้ Teachme Biz เป็นอย่างไรบ้าง

แน่นอนว่าข้อดีอันดับหนึ่งเลยคือการสามารถสร้าง “ระบบการมองเห็น” เป็นวัฒนธรรมภายในองค์กรได้ด้วย​ ​
Teachme Biz ไม่ใช่แค่ลูกค้าเท่านั้นที่เราหวังให้มีความสุข แต่รวมถึงมิตรสหายที่เป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจด้วยเช่นกัน ดังนั้นการสร้างสภาพแวดล้อมให้สามารถเติบโตได้อย่างมีความสุขคือสิ่งสำคัญ การทำงานในตำแหน่งที่ได้รับมอบหมายไปตลอดเลยก็ไม่แย่ แต่ถ้าอยากเปลี่ยนที่ทำงานเพราะอยากเพิ่มทักษะใหม่ๆ เราอยากให้ลองเปลี่ยนไปจับงานหลายๆ ตำแหน่งดูและเรียนรู้งานบริหารและการเป็นผู้นำไปด้วย อย่างเนื้อหางานของผู้จัดการก็สามารถเปิดเข้าไปดูได้ เพราะฉะนั้นพนักงานสามารถเรียนรู้เพื่อก้าวขึ้นไปอีกขั้นได้ การที่เราทำกฎระเบียบออกมาชัดเจนว่าทำอย่างไรถึงได้รับการประเมินดี ทำอย่างไรถึงได้ปรับเงินเดือนขึ้น ทำให้พนักงานตั้งเป้าหมายได้ง่าย และดูเหมือนจะส่งผลถึงการสร้างแรงบันดาลใจของพนักงานด้วย

ความเปลี่ยนแปลงไม่ได้เกิดขึ้นกับพนักงานเท่านั้นแต่เกิดกับผมด้วยเช่นกัน เคยคิดว่า “เราต้องทำทุกอย่าง” เลยทำให้ห่างจากร้านไม่ได้เลยช่วง 2 เดือนแรกที่เปิดร้านใหม่ แต่ตอนนี้มี “คุณครู” ที่ชื่อว่า Teachme Biz คอยดูแลอยู่ในทุกตำแหน่งแล้ว ทำให้ตอนนี้แค่ 2 สัปดาห์ก็สามารถปล่อยร้านให้สต๊าฟดูแลได้แล้ว

ตั้งเป้าเป็น “กลุ่มกิจการอาหารที่จำเป็นที่สุดในระดับโลก”​ ​

―――วางแผนใช้ Teachme Biz อย่างไรบ้างต่อจากนี้

งานในครัวและงานบริการลูกค้าในร้านนี่ต้องใช้แน่นอนอยู่แล้ว นอกจากนั้นอยากเอา Teachme Biz มาใช้ให้หลากหลายขึ้นทั้งด้านธุรการและการเงิน วิธีทำการตลาด ฯลฯ อยากวางรากฐาน “การบริหารที่ไม่ต้องพึ่งใครสักคน”​ ​
และเป็น “กลุ่มกิจการอาหารที่จำเป็นที่สุดในระดับโลก”